การรายงานตัวหลังสำเร็จการศึกษา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป

การรายงานตัวหลังสำเร็จการศึกษา

เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงแนวทางการเข้ารับการกักกันตัว ซึ่งทางราชการกำหนดสำหรับบุคคลสัญชาติไทยและทุกสัญชาติที่เดินทางถึงประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป นั้น

สนร.ออสเตรเลีย ขอแจ้งแนวทางในการปฏิบัติเป็นการชั่วคราว เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการดังกล่าวสำหรับนักเรียนทุนที่ สนร. ดูแลที่สำเร็จการศึกษาระดับสูงสุดแล้วและมีกำหนดกลับประเทศไทย นักเรียนทุนที่ยุติการศึกษา และนักเรียนทุนที่ต้องกลับประเทศไทยด้วยเหตุทางการศึกษาตามหลักสูตร หรือเหตุอื่น เช่น ต้องกลับไปเก็บข้อมูลที่ประเทศไทย เจ็บป่วยและจำเป็นต้องกลับประเทศไทยเพื่อรักษาอาการป่วย  ดังนี้

***ทั้งนี้ กระบวนการขั้นตอนต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนตามข้อกำหนดการเดินทางเข้าประเทศไทยและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ตามวาระและสภาพการณ์ปัจจุบัน จึงขอให้นักเรียนทุนทุกท่านติดตามข่าวและประกาศจาก สนร.ออสเตรเลียเป็นประจำ

1.การแจ้งรายงานการสำเร็จการศึกษา

เมื่อ นทร. ใกล้จะสำเร็จการศึกษาแล้ว ต้องแจ้งให้ สนร. ทราบอย่างน้อย 15-30 วัน โดยการรายงานการสำเร็จการศึกษาสามารถดำเนินการได้โดยการส่งเอกสารดังต่อไปนี้มาที่สนร. ทางอีเมล oea@ocsc.org.au

  1. แจ้งกำหนดการเดินทางกลับหลังสำเร็จการศึกษา (หากยังไม่ทราบกำหนดวันเดินทางกลับ ให้แจ้ง สนร. ในภายหลังเมื่อทราบกำหนดที่แน่นอนแล้ว)
  2. แบบฟอร์มรายงานตัวเดินทางกลับประเทศไทยภายหลังการสำเร็จการศึกษา/เสร็จสิ้นการศึกษา https://www.ocsc.go.th/sites/default/files/attachment/page/aebbraayngaantawedinthaangklab.pdf
  3. ระดับ ป.ตรี/ป.โท by coursework สำเนาหลักฐานจากสถานศึกษา แสดงว่าได้สำเร็จ/กำลังจะสำเร็จการศึกษา ซึ่งอาจเป็น Unofficial Transcript, Completion letter , หรือหนังสือรับรองจาก Student office อย่างใดอย่างหนึ่ง

ระดับ ป.เอก /ป.โท by research เอกสารรับรองการส่งวิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์จากมหาวิทยาลัย หรือ หนังสือแจ้งรับรองว่าสำเร็จการศึกษาแล้วโดยไม่เป็นทางการ (จากอาจารย์ที่ปรึกษา หรือสถาบันการศึกษา) ซึ่งอาจเป็นจดหมายหรือหนังสือรับรองจากสถานศึกษา ที่ระบุวัน ส่งเล่มวิทยานิพนธ์  หนังสือรับรองหรือหนังสือที่วันที่ชัดเจนว่า Successfully submit thesis

สนร. กำหนดวันสำเร็จการศึกษา ตามแต่ละระดับ ดังนี้

ระดับปริญญาตรีและปริญญาโท by coursework

ให้นับวันที่ทราบผลอย่างไม่เป็นทางการ (Provisional result) เป็นวันสำเร็จการศึกษา (มิใช่วันที่รับปริญญา)

ระดับปริญญาโท by research

ให้นับวันที่เสร็จสิ้นการศึกษา โดยนับจากวันที่ส่งวิทยานิพนธ์ตามจริง

ระดับปริญญาเอก

ให้นับวันที่เสร็จสิ้นการศึกษา โดยนับจากวันที่ส่งวิทยานิพนธ์ตามจริง ระดับปริญญาเอกจดหมายหรือหนังสือรับรองจากสถานศึกษา ที่ระบุวัน ส่งเล่มวิทยานิพนธ์  หนังสือรับรองหรือหนังสือที่วันที่ชัดเจนว่าSuccessfully submit thesis

*กรณีมีการสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ และได้ผลเป็นแก้ไขไม่เกิน 6 เดือน (minor corrections) ให้ นทร. ดำเนินเรื่องรายงานการสำเร็จการศึกษา

**กรณีสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ และได้ผลเป็นแก้ไขเกิน 6 เดือน (major corrections) ให้ดำเนินเรื่องยุติการศึกษา และกลับไปแก้ไขวิทยานิพนธ์ ณ ประเทศไทยได้

2.ขั้นตอนดำเนินการเรื่องการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศไทย

  1. แบบฟอร์มขอเบิกค่าใช้จ่ายหลังสำเร็จการศึกษา (ส่งมาที่ สนร. ภายหลังจากที่ได้รับการยืนยันเรื่องตั๋วเครื่องบิน) http://www.ocsc.org.au/site/uploaded/2018/06/Reimburse2017.pdf

2.ตั๋วโดยเครื่องบินชั้นประหยัด ในการเดินทางกลับประเทศไทยถาวร นักเรียนต้องสำรองเงินซื้อตั๋วเครื่องบินการบินไทย จากเมืองที่ศึกษาไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ

**ในกรณีที่ต้องการเดินทางสายการบินอื่น นอกเหนือจากสายการบินไทย สามารถเบิกได้ในอัตรา 75% ของราคาการบินไทย ณ วันเดียวกัน โดยนักเรียนต้องเป็นผู้หาราคาเทียบให้สนร.ด้วย

3.ค่าขนส่งสิ่งของเหมาจ่าย 450 US Dollar นักเรียนจะได้ค่าขนย้ายซึ่งไม่ต้องแสดงหลักฐานใดๆ โดย ณ วันที่เบิก สนร.จะเป็นผู้หาอัตราแลกเปลี่ยนจาก US Dollar เป็น AUD Dollar

4.หากต้องเดินทางจากเมืองที่ศึกษา แล้วต้องมาค้างคืนอยู่ที่ซิดนีย์/เมลเบิร์น เพื่อรอขึ้นเครื่องในวันต่อไป จะไม่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายโรงแรมได้ เนื่องจากได้รวมคชจ.ดังกล่าวในค่าขนส่งสิ่งของที่เหมาจ่ายแล้ว

5.ค่าผลตรวจRT-PCR test ก่อนเดินทางภายใน 72ชั่วโมง หากมีค่าใช้จ่ายในการตรวจสามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้

**ขอให้เช็คหนังสือเดินทาง ว่ามีอายุเกิน 6 เดือน จากวันที่จะเดินทางกลับไทยหรือไม่

หนังสือเดินทางมีอายุไม่ถึง 6 เดือน ก่อนเดินทางกลับไทย

ถ้าหากหนังสือเดินทางหมดอายุหรือไม่ถึง 6 เดือน ต้องทำการสมัครขอ.” เอกสารเดินทางฉุกเฉิน (Emergency Travel Document) เดิมคือหนังสือสำคัญประจำตัว – Certificate of Identity” เอกสารเดินทางฉุกเฉินมีอายุ 1 เดือน ออกให้สำหรับผู้ที่ทำหนังสือเดินทางสูญหาย หนังสือเดินทางหมดอายุ แต่มีความจำเป็นต้องเดินทางกลับประเทศไทยโดยเร่งด่วน สามารถใช้เอกสารเดินทางฉุกเฉิน เดินทางกลับประเทศไทยได้เท่านั้น ไม่สามารถใช้เดินทางไปประเทศอื่น

https://canberra.thaiembassy.org/emergency-travel-document/

 

3.ขั้นตอนในสำหรับการจองสถานที่กักตัว

สนง.ก.พ./สนร. จะรับผิดชอบสถานที่กักกันทางเลือก (ASQ) ให้กับนักเรียนทุนที่ สนร. ดูแล ที่สำเร็จการศึกษาระดับสูงสุดแล้วและมีกำหนดกลับประเทศไทย นักเรียนทุนที่ยุติการศึกษา และนักเรียนทุนที่ต้องกลับประเทศไทยด้วยเหตุทางการศึกษาตามหลักสูตร หรือเหตุอื่น เช่น ต้องกลับไปเก็บข้อมูลที่ประเทศไทย เจ็บป่วยและจำเป็นต้องกลับประเทศไทยเพื่อรักษาอาการป่วย

ขั้นตอนดังนี้

  1. ส่งแบบฟอร์มการจองห้องพัก ASQ( แบบฟอร์มข้อมูลการจองห้องพัก ASQ)สถานที่กักตัว ส่งอีเมลมาที่ สนร.ออสเตรเลีย พร้อมกับการทำเรื่องเบิกค่าใช้จ่าย
  2. ส่งเอกสารตามที่กำหนด ได้แก่ สำเนา passport สำเนาบัตร ปชช. (เพื่อใช้ประกอบการเบิกจ่ายค่าตรวจโควิดตามมาตรการรัฐ) และรายละเอียดเที่ยวบิน
  3. ใบรับรองการได้รับวัคซีนต้านโควิด 2 เข็ม
  4. เมื่อจอง ASQ ได้แล้ว กลุ่มงานคลังจะส่งเอกสาร confirm การจอง ASQ มาให้นักเรียนทุน เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับขอเอกสาร Thailand Pass จากสถานทูต/สถานกงสุล
  5. เมื่อนักเรียนทุนได้รับใบ Thailand Pass จากสถานทูต/สถานกงสุลแล้ว ให้ส่งกลับ สนง.ก.พ. และ cc สนร. เพื่อส่งให้กับโรงแรม ASQ

ขอให้นักเรียนทุนแจ้งชื่อให้ สนร. หลังจากจองตั๋วเครื่องบินแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ ก่อนกำหนดกลับประเทศไทย  เพื่อให้มีเวลาเพียงพอที่จะมั่นใจนักเรียนทุนจะมีเวลาพอสำหรับการขอเอกสาร Thailand Pass จากกระทรวงการต่างประเทศค่ะ (เนื่องจากต้องคำนึงถึงเวลาทำงานที่แตกต่างกันกับ ปทท. ซึ่งอาจทำให้ต้องเสียเวลาไปอย่างน้อยหนึ่งวันค่ะ)

ทั้งนี้ นักเรียนทุนที่กลับเนื่องจากเหตุผลจำเป็นทางการศึกษา ให้ส่งหนังสือรับรองของอาจารย์ที่ปรึกษา และเอกสารหลักสูตร (ถ้ามี) และนักเรียนทุนที่กลับเนื่องจากเจ็บป่วย ขอให้มีเอกสารรับรองจากแพทย์ ให้ สนร. ด้วย

การจองที่พักกักกันทางเลือกจะมี 2 วิธี คือ

วิธีที่ 1 : สนง.กพ. จัดหาสถานที่ให้ก่อนเป็นลำดับแรก หาก สนง.ก.พ. ไม่สามารถจองที่พักให้ได้ สนง.ก.พ. จะแจ้งให้นักเรียนทุนหา ASQ เอง โดย ASQ ที่ สนง.ก.พ. จัดหาให้  ASQ จะเก็บเงินตรงกับ สนง.ก.พ. ดังนั้นนักเรียนทุนไม่ต้องสำรองจ่าย มี

1.1 โรงแรม Mercure Bangkok สุขุมวิท 11

วิธีที่ 2 : หาก สนง.ก.พ. ไม่สามารถจอง ASQ ให้นักเรียนทุนได้ นักเรียนทุนต้องจอง ASQ อื่นเองและสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน แล้วขอเบิกคืนได้ จำนวน 1 คืน ตามที่จ่ายจริงไม่เกินอัตรา 4,700 บาท ขอให้นำใบเสร็จมาเบิกที่กลุ่มงานคลัง สนง.กพ. ภายหลัง เมื่อเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว โดยรวบรวหลักฐานการจ่ายเงิน ส่งอีเมลไปที่ สนง.ก.พ. ที่ accts@ocsc.go.th

  1. 6. เมื่อเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว จะต้องเข้ารับการกักกันเฝ้าระวังโรค (State Quarantine) เป็นเวลาอย่างน้อย 1 คืน และให้ส่งเอกสารรายงานตัวไปยัง สำนักงาน ก.พ. ทางอีเมลที่ etab@ocsc.go.th และ c@ocsc.go.th ในโอกาสแรกที่เดินทางถึงประเทศไทย (อ่านรายละเอียดที่นี่)

*** สำหรับนักเรียนที่เป็นข้าราชการ ท่านสามารถดำเนินการตามหนังสือเวียนของสำนักนายกรัฐมนตรี ด่วนที่สุด ที่ นร 0106/ว 316 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 ที่กำหนดให้การต้องเข้ารับการกักกันเฝ้าระวังโรคภายหลังเดินทางกลับจากต่างประเทศเป็นเวลา 14 วัน ไม่ถือเป็นวันลา แต่นักเรียนจะต้องรีบรายงานพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทำให้ไม่สามารถมาปฏิบัติราชการได้และรายงานตัวกลับเข้าปฏิบัติราชการกับผู้บังคับบัญชาในโอกาสแรกที่เดินทางถึงประเทศไทย สำหรับช่องทางที่จะจัดส่งรายงานทั้งสองดังกล่าว ขอให้ประสานสอบถามกับหน่วยงานการเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการต้นสังกัดของนักเรียน

4.การรายงานตัวกับทาง สำนักงานก.พ.และต้นสังกัด

1.รายงานตัวกับ ก.พ.

ให้ส่งเอกสารให้กับทาง ศกศ.สำนักงาน ก.พ. ทางอีเมล etab@ocsc.go.th และChantakarn.c@ocsc.go.th ในโอกาสแรกที่เดินทางถึงประเทศไทย (อ่านรายละเอียดที่นี่)

(เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 จึงให้ส่งเอกสารทางอีเมล์แทน

เอกสารที่ต้องส่งให้ สนง.กพ.ทางอีเมล์ etab@ocsc.go.th มีดังนี้

การดำเนินการ/เอกสารที่ต้องส่ง ส่งเอกสารให้กับ ศกศ.ทางอีเมล เมื่อเดินทางถึงไทยแล้ว etab@ocsc.go.th
1.แบบรายงานตัวกลับจากต่างประเทศ

https://www.ocsc.go.th/sites/default/files/attachment/page/aebbraayngaantawedinthaangklab.pdf

 

2.ตารางการบินขามาประเทศไทย
3.Boarding Pass
4.หลักฐานสำเร็จการศึกษา หรือหนังสือรับรอง ,หนังสือรับรองการส่งเล่มวิทยานิพนธ์
5.ในกรณีที่โดนกักกันโรคฯ ขอให้แจ้งสำนักงาน ก.พ.ทราบในโอกาสแรก

 

การรายงานตัวกับต้นสังกัด

-กรณี เป็นข้าราชการ/บุคลากรภาครัฐ ขอให้ประสานรายงานตัวกับต้นสังกัด/เจ้าของทุน โดยตรง

-กรณีเป็น บุคคลทั่วไป ขอให้ประสานต้นสังกัด/เจ้าของทุนเพื่อรายงานตัวรายงานการเดินทางกลับ และประสาน ศกศ. เกี่ยวกับเอกสารส่งตัวเข้าปฏิบัติงาน ณ ต้นสังกัด ติอต่อ สำนักงาน ก.พ.(ศกศ.) ที่อีเมล etab@ocsc.go.th

 

สิ่งที่ควรทราบเพิ่มเติม

เรื่องการเดินทางเข้าประเทศไทย ตามมาตรการศบค.

1.ถ้าได้รับวัคซีนครบ2โดสแล้ว จะเป็นรูปแบบที่ 1 คือรูปแบบการกักตัว Exemption from Quarantine (Test and Go)

  • เป็นผู้ที่เดินทางจากประเทศ/พื้นที่ตามประกาศ รวมถึง ออสเตรเลีย (ดูรายชื่อประเทศ/พื้นที่ ตามประกาศ ศปก.กต.)
  • ได้รับวัคซีนครบถ้วนแล้ว (fully vaccinated – รับวัคซีนครบอย่างน้อย 14 วัน ก่อนวันเดินทางออกจากประเทศออสเตรเลีย)
  • มีผลตรวจโควิดโดยวิธี RT-PCR เป็นลบ โดยผลออกภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางออกจากประเทศต้นทาง
  • มีหลักฐานการจองที่พักแบบ SHA+ หรือ Alternative Quarantine (AQ) อย่างน้อย 1 คืน พร้อมหลักฐานการชำระเงิน (ส่งเรื่องการจองที่พักตามแบบฟอร์ม มาให้สนร.เพื่อประสานการจองห้องพัก,จากนั้นทางกลุ่มงานคลัง สำนักงาน ก.พ. จะเป็นผู้ติดต่อประสานแจ้งข้อมูลที่พักให้กับนักเรียนต่อไป)
    เพื่อรอผลตรวจโควิดที่ห้องพักโรงแรมหลังเดินทางถึงประเทศไทย หากผลตรวจเป็นลบจึงจะเดินทางออกจากโรงแรมได้
    * ผู้ที่เข้าข่ายยกเว้นการกักตัวจะต้องพำนักอยู่ในประเทศออสเตรเลียหรือในประเทศที่ได้รับอนุญาตไม่ต่ำกว่า 21 วัน ยกเว้นเดินทางมาจากประเทศไทย

ขั้นตอนการขอ “Thailand Pass” เพื่อเดินทางเข้าประเทศไทย

 

ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมเอกสารให้พร้อม

  • หนังสือเดินทาง (Passport)
  • VISA (สำหรับชาวต่างชาติเท่านั้น) ข้อมูลวีซ่า
  • เอกสารยืนยันการจอง AQ หรือ SHA+ ตามข้อกำหนดของแต่ละโครงการ พร้อมใบเสร็จที่แสดงว่าชำระค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้ว
  • เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบถ้วน ตามข้อกำหนดของรัฐบาลไทย มากกว่า 14 วันก่อนเดินทางในกรณีที่เข้าร่วมโครงการไม่กักตัวจาก รายชื่อ 63 ประเทศ และ โครงการ Sandbox
  • ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาโควิดในต่างประเทศวงเงิน USD50,000 (สำหรับชาวต่างชาติเท่านั้น)

ขั้นตอนที่ 2 : ลงทะเบียน “Thailand Pass”

  • ลงทะเบียนอย่างน้อย 7 วันก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย ได้ที่ https://tp.consular.go.th/
  • กรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว (รวมถึงแบบฟอร์ม Immigration) และอัปโหลดเอกสารที่จำเป็นตามรายละเอียดขั้นตอนที่ 1
  • รอการอนุมัติเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน
  • เมื่ออนุมัติแล้วจะได้รับ “Thailand Pass QR Code”

ขั้นตอนที่ 3 : เอกสารตรวจหาเชื้อโควิด -19

  • โดยต้องมีผลเป็นลบก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยแบบ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง

ขั้นตอนที่ 4 : เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย

  • แสดงเอกสารทั้งหมดรวมถึง “Thailand Pass QR Code” และเอกสารตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยต้องมีผลเป็นลบก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยแบบ RT-PCR ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง แสดงต่อเจ้าหน้าที่สนามบินที่ท่านมาถึง
  • ผ่านกระบวนการพิธีตรวจคนเข้าเมือง และกรมควบคุมโรค
  • เดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ณ โรงแรมที่ท่านได้จองไว้ โดยรถของทางโรงแรมเท่านั้น
  • แอปพลิเคชันหมอชนะ MorChana

ขั้นตอนที่ 5 : ระหว่างรอตรวจหาเชื้อโควิด-19

  • เมื่อเดินทางถึงโรงแรมที่ได้จองไว้ ทางโรงแรมจะดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด-19 อยู่ตามกำหนดตามรูปแบบการเดินทาง และเมื่อผลการตรวจหาเชื้อออกมาเป็น “ลบ” ก็สามารถเดินทางออกจากโรงแรมได้

***หรือรูปแบบที่ 2 รูปแบบเข้าพักในสถานที่กักตัวทางเลือก AQ (ไม่น้อยกว่า 10 วัน)

ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือยังรับวัคซีนไม่ครบถ้วน หรือได้รับวัคซีนโดสสุดท้ายน้อยกว่า 14 วัน ก่อนเดินทางออกจากประเทศต้นทาง

มีหลักฐานการจองที่พักแบบ Alternative Quarantine (AQ) ไม่น้อยกว่า 10 คืน และหลักฐานการชำระเงิน/มัดจำ

 

ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ สนร.ออสเตรเลีย
Email: oea@ocsc.org.au
Tel: 02 6260 3614